HR trends 2024 น่ารู้ เทรนด์แบบไหนกำลังมาแรง

HR trends 2024 ก็คงเป็นเทรนด์ที่ HR อย่างเรา ๆ กำลังอยากรู้ว่าในปีนี้นั้นจะไปในทิศทางไหนกันแน่ แน่นอนว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้เราจะเห็นว่า HR นั้นเป็นหน่วยงานที่มีการเปลี่ยนแปลงในระดับต้น ๆ ขององค์กร ในปีนี้ก็เช่นกัน HR เองก็ยังจะต้องเข้ามามีบทบาทในการยกระดับองค์กรอย่างต่อเนื่อง การรู้เทรนด์ที่กำลังมาแรงในปีนี้ทั้งในและนอกประเทศ ก็จะทำให้ฝ่ายบุคคลกำหนดกลยุทธ์ต่าง ๆ ได้อย่างเฉียบคมมากขึ้น

HR trends 2024 ที่ฝ่ายบุคคลไม่รู้ไม่ได้แล้ว

สิ่งหนึ่งที่เป็นปัจจัยให้งาน HR สำคัญมากขึ้น ๆ ก็คือเรื่องของเทคโนโลยี ปีนี้ก็จะเป็นอีกปีหนึ่งที่มีความเข้มข้นมาก ๆ เทคโนโลยีจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมกับการทำงานของ HR และ HR เองก็ควรจะรู้ว่าจะเอาเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์กับงานส่วนต่าง ๆ จะผลักดันองค์กรได้อย่างไร ถ้าพร้อมแล้วเรามาดูเทรนด์ที่กำลังมาในปีนี้กันเลยดีกว่า

1.Generative AI ทำให้พฤติกรรมคนเปลี่ยนไป

สำหรับในปี 2024 เองนั้น generative AI ที่เริ่มแพร่หลาย ในไทยแม้ว่าจะยังใช้ generative AI กันไม่ได้มากเท่ากับต่างประเทศ แต่ถ้าเราสังเกตดี ๆ จะพบว่าเราจะเห็นหัวข้อมากมายเต็มไปหมดที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ตอนนี้ HR อาจจะกำลังสงสัยว่างานของ HR อาจจะดูเหมือนไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่เอาเข้าจริงแล้วต้องบอกเลยว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดผลกระทบทางอ้อมกับ HR ในหลายส่วนมาก ๆ เลยทีเดียว อย่างแรกเลยก็คือประโยชน์ที่ HR จะได้ทั้งในเรื่องของการทำ onboarding พนักงาน การนำ AI มาเป็นผู้ช่วยในการตอบคำถามให้กับพนักงานจำนวนมาก ซึ่งในต่างประเทศเอง หลาย ๆ บริษัทก็เริ่มนำร่องเอาไปใช้งานเรียบร้อยแล้ว หัวหน้างานเองก็แก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ดีขึ้นเมื่อนำ AI มาช่วย

แต่ในแง่ดีก็ยังมีอีกมุมที่ส่งผลกระทบต่อคนเพราะการมาของ AI ทำให้พนักงานจำนวนมากเริ่มรู้สึกว่าไม่มั่นคง เกิดความกลัวว่าจะต้องเสียงานให้กับ AI ไปก็ทำให้พนักงานไม่ได้มองเพียงแค่ผลตอบแทนเป็นหลักอีกต่อไป แต่มองในเรื่องของการพัฒนาตัวเองต่าง ๆ เป็นโฟกัสในการทำงานด้วย บริษัทใหญ่ ๆ ต่างก็รู้เรื่องนี้กันดี และก็ได้มีการจัดการเรื่องพวกนี้เป็นแผนพัฒนาบุคลากรและนั่นก็ทำให้ตอบโจทย์ความต้องการของพนักงานในยุคนี้

2.Hybrid working นั้นดีต่อองค์กร

ในไทยเราเองนั้นก็มีการถกเถียงกันมากพอสมควรว่าการทำงานแบบให้ทำงานแบบ work from anywhere ได้นั้นดีจริงหรือเปล่า? ในต่างประเทศเองมีบริษัทที่ให้บริการที่ปรึกษาได้ทำวิจัยออกมาแล้วพบว่าจริง ๆ แล้วบริษัทที่มีความยืดหยุ่นสูงกว่า และให้พนักงานสามารถเลือกรูปแบบการทำงานที่ต้องการได้เอง จะมียอดขายเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม สาเหตุส่วนนึงก็เป็นเพราะว่า คนที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ๆ นั้นย่อมมีตัวเลือกเป็นจำนวนมาก และบริษัทที่มีความยืดหยุ่นสูงกว่าก็มักจะเป็นข้อได้เปรียบก็ทำให้คนกลุ่มนี้ตัดสินใจไปร่วมงานด้วย นอกจากนี้พนักงานก็ยังมีความสุขเพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตราการลาออกลดลงอีก HR ก็สามารถที่จะลดภาระงานในการหาคนใหม่ได้ และเอาไปพัฒนาในส่วนอื่น ๆ แทน ในทางกลับกันออฟฟิศที่เข้มงวดเรื่องเวลามาก ๆ พนักงานในกลุ่มท็อปก็จะไม่สนใจ และกลายเป็นตัวเลือกให้กับพนักงานระดับรอง ๆ แทน

3.สวัสดิการด้าน financial กำลังมาแรง

ถ้าเราพอสังเกตคงจะเห็นว่าเริ่มมี product ต่าง ๆ เข้ามาตอบโจทย์ในเรื่องของการเงินพนักงานค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเบิกเงินล่วงหน้า หรือคอร์สที่ช่วยเรื่องของความรู้ทางการเงินต่าง ๆ พนักงานในองค์กรจำนวนมากหลังจากโควิดนั้นความสุขทางการเงินลดลงเรื่อย ๆ พนักงานเงินเดือนมักจะเจอปัญหาหลัก ๆ เลยคือการใช้เงินแบบเดือนชนเดือน และขาดความรู้ทางการเงินอย่างหนัก แน่นอนว่าพอพนักงานมีปัญหาการเงิน ย่อมส่งผลกระทบต่อจิตใจและก่อให้เกิดปัญหาในการทำงานอย่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ HR ที่เข้าใจในเทรนด์นี้ก็จะช่วยให้ performance ของพนักงานดีขึ้นได้

บริษัทในต่างประเทศบางรายก็ได้ลองทำโครงการให้พนักงานสามารถเบิกเงินเดือนได้แบบตามความต้องการ ควบคู่ไปกับการมีเรื่องของโค้ชชิ่งให้ความรู้ทางการเงิน และการทำ saving plan ในอนาคต สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้พนักงานรู้สึกดีกับบริษัทและมีประสบการณ์ที่ดีในการทำงาน และยิ่งหากเราเป็นบริษัทที่อยู่ในวงการที่ต้องพึ่งพาการจ้างคน การมีส่วนช่วยพนักงานในด้านการเงินนอกเหนือจากการให้เงินเดือนก็จะช่วยได้อย่างมาก

4.การทำงานร่วมกันของพนักงานหลายรูปแบบ

แต่ก่อนพนักงานในการทำงานอาจจะมีแค่เรื่องพนักงานแบบเต็มเวลาและพนักงานที่ทำงานแบบพาร์ทไทม์ HR เองก็ไม่ได้ต้องปวดหัวกับการจัดการมากนัก แต่ในยุคปัจจุบันที่การทำงานมีความซับซ้อนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพนักงานที่เป็นพนักงานเต็มเวลา พนักงานพาร์ทไทม์ พนักงาน contract พนักงานจ้างชั่วคราว digital worker ต่าง ๆ จริง ๆ แล้วพนักงานประเภทที่เรากล่างมาทั้งหมดนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่และก็มีมานานมาก ๆ แล้ว แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปในยุคนี้คือสัดส่วนของพนักงานในแต่ละประเภทที่พนักงานแบบ full time เองเริ่มมีเปอร์เซ็นต์ที่ลดลง และพนักงานในรูปแบบอื่น ๆ มีจำนวนมากขึ้น องค์กรก็จะต้องมีการบริหารจัดการในรูปบบที่เปลี่ยนไป และ HR ต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญในการประสานงานและทำให้พนักงานดำเนินงานได้ดีที่สุด

ก็จบกันไปแล้วกับ HR trends 2024 น่ารู้ ปีนี้ก็คงเป็นอีกปีหนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงมาก ๆ สำหรับองค์กรทั้งเล็กและใหญ่ HR เองก็ยังคงเป็นฟันเฟืองสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนองค์กรทั้งจากภายในและภายนอก และคงมีงานต่าง ๆ รออยู่มากมายเต็มไปหมด สุดท้ายองค์กรที่ปรับตัวได้ดี ก็จะประสบความสำเร็จในเรื่องของคน หวังว่าทุกท่านจะได้ประโยชน์จากบทความนี้ และสามารถเอาไปประยุกต์ใช้ในการบริหารบุคลากรและองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ