People Performance Conference

สวัสดีท่านผู้อ่านทุกคนนะครับ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทาง empeo มีโอกาสได้ไปร่วมงาน People Performance Conference 2024 ที่จัดโดย Creative Talk ร่วมกับทาง QGen Consultant ด้วยธีมหลักของงานคือการ “พัฒนาคน พัฒนาตน พัฒนาองค์กร” ไปด้วยกัน และภายในงาน People Performance Conference 2024 นั้นก็มีการเชิญ speakers ต่าง ๆ มาขึ้นเวทีเพื่อทำการแชร์มุมมองต่าง ๆ มากมายเพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งเสริมการ “พัฒนาคน พัฒนาตน พัฒนาองค์กร” โดยตัวอย่างไลน์อัปผู้พูดบนเวทีที่มีมากมายจากหลากหลายธุรกิจนั้นก็นำเรื่องที่น่าสนใจมาแชร์กัน

แนวโน้มความแปรผันของวิถีการทำงาน และการเปลี่ยนแปลงขององค์กรเพื่อเท่าทันความผันแปรเหล่านั้น

เริ่มต้นที่คุณ อภิชาติ ขันธวิธี CEO จากบริษัท QGEN Consultant ที่ได้เน้นย้ำเรื่องของความจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในการปรับตัว และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมทักษะของตนเองเตรียมตัวเข้าสู่รูปแบบการทำงานในอนาคตแบบใหม่ภายในปี 2030 ในหัวข้อ World of Work 2030 โดยเน้นย้ำถึงแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงของตำแหน่งงานต่าง ๆ ที่มีโอกาสจะถูกแทนที่และอาจบีบบังคับใครหลาย ๆ คนให้ต้องเปลี่ยนอาชีพตัวเองอ้างอิงจากการวิจัยของ McKinsey & Company นอกจากนี้ คุณอภิชาติก็ได้กล่าวถึงความเปลี่ยนแปลงของอุปนิสัยของคนทำงานที่จะมีความสนใจในมิติของ Work-Life Balance มากขึ้น พร้อมกับความสำคัญในการเรียนรู้ และทำงานควบคู่กันไปกับเทคโนโลยีต่าง ๆ ในขณะที่องค์กรก็ต้องรับคนที่มีทักษะสูงขึ้น มี performance มากขึ้นและรักษา “talents” เหล่านั้นไว้ในองค์กรให้ได้นานที่สุด

Generation Gap ไม่ใช่ความแตกต่างของอายุ แต่ความแตกต่างของทัศนคติต่างหากคือ Generation Gap

ต่อมาก็เป็นคราวของ คุณพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือคุณไอติม จากพรรคก้าวไกล ที่ติดธุระด่วนภายในวันงานทำให้มาร่วมงานเพื่อแสดงความคิดและมุมมองของคุณพริษฐ์เองไม่ได้ ทั้งนี้ คุณพริษฐ์ก็ได้เล่ามุมมองของเขาผ่านรูปแบบวีดีโอ ในเรื่องของการก้าวข้ามความแตกต่างทางมุมมองความคิดจากคนต่าง generation ในหัวข้อ Overcoming the Generation Gap in Leadership ซึ่งเป็นแนวคิดที่สำคัญมาก ๆ ต่อการยอมรับคนต่าง generation เพื่อการเติบโตและเดินหน้าไปด้วยกัน ด้วยการทำความเข้าใจ และยอมรับความคิดเห็นที่ถึงแม้ว่าจะแตกต่างกันอย่างเท่าเทียมนั่นเอง พร้อมเน้นย้ำถึง 7 คุณสมบัติที่ทางคุณพริษฐ์เองนั้นคิดว่าเป็นคุณสมบัติหลักของการเป็นผู้นำที่ดี ได้แก่ ฟังให้กว้าง พูดให้ชัด ทำให้ดู ยืดหยุ่นให้ได้ ตามให้ทัน นำให้เป็น และลุกให้เร็ว

เก่งไม่พอไม่เป็นไร หัวใจอย่าอ่อนแอ ลองแก้ไขผ่านการปรับสมดุลร่างกายและจิตใจให้ดี

อีกท่านนึงที่มาร่วมแบ่งปันความคิดความเข้าใจกันภายในงานก็คือ คุณเล้ง-ศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร CEO แห่ง MFEC ซึ่งตัวคุณเล้งเองนั้นได้ทำการเล่าถึงวิธีการแก้ไขอาการที่ตัวเราเองทุก ๆ คนนั้นรู้สึก “เก่งไม่พอ” หรือ Imposter Syndrome ในหัวข้อ Overcoming Impostor Syndrome: Strategies for Confidence and Success โดยคุณเล้งได้กล่าวไว้ว่าในตัวเราทุกคนนั้น มีชุดคำสั่งที่ฝั่งอยู่ในร่างกายตั้งแต่กำเนิด และดำเนินการผ่านการหลั่งฮอร์โมนต่าง ๆ ซึ่งส่งผลให้เกิดความไม่สมบูรณ์แบบหรือความสมดุลของตัวเราเองได้ ซึ่งเราต้องรู้ตัวเราเองและยอมรับในจุดนั้น ต่อจากคุณเล้งได้แนะนำว่าให้เราพยายามควบคุมฮอร์โมนของพวกเราทางอ้อมโดยการทำกิจกรรมหรือทำสิ่งต่าง ๆ เช่น การยิ้ม การออกกำลังกาย เป็นต้น เพื่อปรับสมดุลของฮอร์โมนร่างกายให้ดีขึ้น ควบคู่กันไปกับการปรับ Routine ตัวเองให้มันตรงข้ามขึ้นเหมือน “หยินกับหยาง” ประกอบกับการเข้าใจอย่างแท้จริงเพื่อใส่ใจจริง ๆ กับคนเหล่านี้ ที่มีความแตกต่างกันเป็นปกตินั่นเอง

From Zero to Hero ลุกขึ้นจากศูนย์ สู่ดาวเหนือขององค์กรที่ฝันใฝ่ภายใน 100 วัน

และคนสุดท้ายที่อยากจะหยิบยกมาเป็นไฮไลต์ให้แก่คุณผู้อ่านทุกท่านก็คือ คุณกวีวุฒิ เต็มภูวภัทร CEO ของ Purple Ventures ที่หลาย คนอาจจะคุ้นหูกับบริษัท Robinhood มากกว่านั่นเอง โดยที่คุณกวีวุฒิก็ได้หยิบยกกรณีของตัว Robinhood เองมาเป็นกรณีศึกษาภายใต้หัวข้อว่า 3-Day People Transformation Journey: Case Study from Robinhood ซึ่งได้เอ่ยไว้ว่า 4 วัน ที่สำคัญที่สุดในการผลักดันปรับเปลี่ยนองค์กรนั้น คือ วันที่ 1 ที่จะเป็นโอกาสให้เราได้รีบหยอดกระปุกออมสินสะสมความเชื่อใจของพนักงาน (Fill the piggy bank. Find immediate pains and fix it.) วันที่ 30 ที่ต้องกำหนดวิสัยทัศน์และทิศทางขององค์กร ผ่านการสื่อสารที่ดีเพื่อสตาร์ทเครื่องเริ่มลุย (Point to the North Star, Get right people on board and start the engine) วันที่ 100 ที่คุณต้องสร้างกติกาและ culture ที่ดีในทุก level ในองค์กรสำคัญ (Set rules of the game. Get everyone accountable. Lead by Examples) และสุดท้ายวันที่สำคัญที่สุดคือทุก ๆ วันต่อจากนี้ที่คุณควรจะฟังผู้คน กางแผนออกมาให้ทุกคนเห็น นำโดยการเป็นตัวอย่าง วนไปเรื่อย ๆ ในทุก ๆ วันนั่นเอง

ภาพรวม Workshop ต่าง ๆ สู่การสร้างพัฒนาการ ผลักดันการเติบโตด้วยวิธีที่หลายหลาก

4 ท่านที่ได้กล่าวมาเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของไลน์อัปผู้พูดจากที่มีทั้งหมด ยังมีผู้พูดท่านอื่น ๆ อีกมากมายที่ได้เข้ามาร่วมแบ่งปันความคิดและมุมมองของแต่ละคนกัน เช่น คุณรวิศ หาญอุตสาหะ เจ้าของพอตแคสต์ Mission to the Moon และ CEO ของบริษัท ศรีจันทร์โอสถ จำกัด ในหัวข้อ People of 2030 หรือจะเป็นเรื่อง Psychological Safety โดยคุณดุจดาว วัฒนปกรณ์จาก Empathy Sauce ก็ตาม นอกจากนี้ยังมีส่วนของ workshop ที่จะนำพาทุกคนลองพัฒนาทักษะและวิธีการทำงาน ที่อาจจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ร่วมเวิร์คช็อปด้วย ไม่ว่าจะเป็น How to Brand Yourself as a Leader หรือวิธีจัดการงานกองโตแค่โฟกัสเพียง 25 นาที ด้วย Pomodoro Training โดยคุณศิวัตร เชาวรียวงษ์จากบริษัท River Mersey

ทิ้งท้ายสรุปก่อนอ่านจบ

จัดว่าเป็นอีเวนท์ที่จัดหนักจัดเต็มแน่นไปด้วยมุมมองต่าง ๆ จากตัวจริงในการบริหารจัดการองค์กร ประกอบกับเวิร์คช็อปที่จะพาพวกเรามาอัปสกิลเพิ่มเติมกัน เรียกได้เลยว่าเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพจริง ๆ สำหรับงาน People Performance Conference 2024 ที่สามย่านมิตรทาวน์ในวันที่ 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา สุดท้ายนี้แล้ว อยากจะขอบคุณท่านผู้อ่านทุก ๆ คนที่อ่านจนจบ ส่วนในครั้งหน้า หากทาง empeo ได้มีโอกาสไปร่วมงานใดอีก ไว้รอติดตามการอัปเดตสาระดี ๆ แบบนี้อีกได้เลย

ติดตามเกร็ดความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับ HR และการพัฒนาองค์กรได้ที่
Blog:    www.empeo.com/blog 
Facebook:    www.facebook.com/myempeo
Youtube:   www.youtube.com/empeo


Tags

People Performance Conference 2024, ppc 2024


You may also like

>