เคล็ดลับบริษัทเล็กจ้างงานให้ปังเหมือนบริษัทใหญ่

การจ้างงานจะว่าไปก็เหมือนกับความสัมพันธ์ในชีวิตคนเราว่าไหมครับ แม้เผินๆจะดูเหมือนว่าขึ้นกับผลตอบแทนที่เราให้เป็นหลัก แต่สุดท้ายแล้วความสัมพันธ์ระหว่างตัวบุคคลเองก็เป็นสิ่งที่ทำให้คนๆนั้นอยู่กับองค์กรได้นาน การจ้างคนใหม่ๆเข้ามาทำงานบางครั้งก็จำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ และบางครั้งก็เป็นเรื่องโชคที่ได้คนเก่งๆเข้ามาร่วมงานด้วย ซึ่งแน่นอนว่าหากบริษัทคุณเป็นบริษัทขนาดใหญ่การหาคนเข้ามาร่วมงานก็จะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ ต่างกับบริษัทขนาดเล็กที่มีข้อจำกัดมากมาย วันนี้ empeo เราเลยจะมาแนะนำวิธีที่แม้คุณจะเป็นองค์กรขนาดเล็กก็สามารถหาคนเก่งๆเข้ามาร่วมงานได้

ความแตกต่างระหว่างการจ้างงานระหว่างองค์กรใหญ่และเล็ก

ก่อนที่เราจะเข้าไปพูดถึงกลยุทธ์ในการจ้างงาน เสียเวลาสักนิดมาทำเข้าใจความแตกต่างกันก่อนดีกว่าครับ แน่นอนว่าเรื่องงบประมาณหรือ budget ในการจัดหาคนเป็นตัวหลักๆเลยที่ทำให้บริษัทใหญ่น่าดึงดูดมากกว่า แต่หากพิจารณาลึกๆลงไปอีกนอกจากเรื่องของ budget เองนั้นตัวทีมจัดหาคน หรือ recruiting เองนั้นก็เป็นตัวแปรที่สำคัญ ในบริษัทขนาดเล็กเองนั้นส่วนมากแล้วจะไม่มี HR เป็นตัวเป็นตน การจ้างงานนั้นก็มักเป็นแอดมินช่วยจัดการให้ การสัมภาษณ์ก็ขึ้นตรงกับเจ้าของเลย ซึ่งถ้าหากเป็นฝั่งองค์กรใหญ่แล้วทุกส่วนจะเป็นระบบมากกว่าตั้งแต่ขั้นตอนการเริ่มจัดหาคน มีคนดูแลรับผิดชอบโดยเฉพาะ ทำให้มีเวลาในการหา talent เข้ามาร่วมงานได้เต็มที่นั่นเอง

และสิ่งที่กล่าวถึงในตอนต้นเมื่อพิจารณาเงินเดือนที่เราจ่ายให้ได้ก็ทำให้กลยุทธ์ในการจ้างคนเราไม่อาจเอาผลตอบแทนมาเป็นสิ่งจูงใจให้กับคนหางานได้ ซ้ำร้ายเมื่อมองถึงผลประโยชน์ส่วนอื่นๆเช่น โบนัส กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ทุกสิ่งก็ด้อยกว่าบริษัทใหญ่ไปหมด ทำให้หนทางที่บริษัทเล็กๆจะได้คนเก่งๆมาร่วมงานด้วยนั้นเป็นสิ่งที่ยากมากๆนั่นเอง ดังนั้นแล้วเราจึงต้องมีกลยุทธ์ที่แตกต่างออกไป

องนำเสนอในรูปแบบที่แตกต่างดูสิ

ในเมื่อคุณไม่สามารถสู้ได้ในแง่ของผลตอบแทน ลองหันกลับมาทบทวนถึงผลประโยชน์รูปแบบอื่นๆดู อาจจะเป็นในเรื่องของวันลา เวลาเข้างาน สถานที่ตั้ง หรือแม้กระทั่งว่าองค์กรของเราเป็นเช่นไร สาเหตุก็เพราะองค์กรใหญ่ๆนั้นมักจะเน้นเรื่องระเบียบแบบแผนค่อนข้างมาก การจ้างงานก็มักจะผ่านเว็บไซต์องค์กร หรือผ่านบริษัทจัดหางาน ทำให้การหาคนเข้างานจะเป็นไปในเชิงรับมากกว่าเชิงรุก แน่นอนว่าคุณสามารถทำให้แตกต่างได้

  • ลง Social media แบบเป็นกันเองดูสิ ในเมื่อคุณไม่อาจสู้ได้ในช่องทางทั่วไป ลองหันมาใน channel ที่ใครๆก็เข้าถึงได้ ยิ่งคุณแชร์เกี่ยวกับออฟฟิศที่ทำงานคุณ คนในบริษัท หนึ่งวันในการทำงานมากเท่าไร คนที่รู้สึกว่าบริษัทของคุณก็น่าร่วมงานด้วยก็จะมากขึ้นเท่านั้น
  • เล่าเรื่องราวบนเว็บไซต์คุณ แทนที่จะทำหน้าสมัครงานที่ไม่มีการอัปเดตตำแหน่งเพราะไม่มีคนดูแล ลองเปลี่ยนมาทำเป็นหน้าสวยๆที่อธิบายเกี่ยวกับองค์กรของคุณดูสิว่ามีความเป็นอยู่อย่างไรบ้าง เพราะหากผู้สมัครเจอตำแหน่งงานคุณแล้วล่ะก็เค้าย่อมต้องเข้าเว็บไซต์เพื่อดูรายละเอียดต่างๆเพิ่มเติมแน่ๆ
  • ปากต่อปาก ลองให้พนักงานคุณช่วยแนะนำเพื่อนหรือคนรู้จักที่มีความสามารถผ่านทางช่องทางส่วนตัว โดยคุณอาจจะทำให้เป็นกิจลักษณะมากขึ้นโดยการให้ค่าตอบแทน

ทำ Job description ให้น่าสนใจ

กี่ครั้งแล้วที่คุณพบเห็นโพสตำแหน่งงานที่คุณรู้สึกว่าแล้วตกลงฉันต้องเข้าไปทำอะไรกันแน่เนี่ยกับตำแหน่งงานนี้ อย่าปล่อยให้โพสงานคุณเป็นเช่นนั้น คุณอาจจะต้องยอมเสียเวลามานั่งพิจารณาสักหน่อย เพราะหากตำแหน่งงานของคุณมันคลุมเครือเกินไป ผู้สมัครก็ย่อมงงไปด้วยแน่นอน คุณเองก็คงไม่อยากได้คนผิดประเภทเข้ามาร่วมงานใช่ไหมครับ

อัปเดตเนื้องานเป็นประจำ สิ่งที่เป็นข้อผิดพลาดที่เรามักจะพบเจออยู่เสมอคือไม่เคยแก้เรื่อง job description เลย อย่าคิดว่าคุณสามารถทำ job description ครั้งเดียวแล้วใช้ได้ตลอดไป เมื่อคุณต้องมีการจ้างงานใหม่แม้จะเป็นตำแหน่งเดิมก็ควรที่จะดูว่าสุดท้ายแล้วในตำแหน่งนี้ เราต้องการคนแบบไหนที่จะเข้ามาช่วยงาน เมื่อเวลาเปลี่ยน ความต้องการเราย่อมเปลี่ยนตาม

บอกให้รู้ว่าเค้าจะได้อะไรนอกจากเงิน ในเมื่อเราไม่สามารถให้ผลตอบแทนก้อนใหญ่ได้ ก็อย่าลืมเขียน benefit อื่นๆที่เห็นได้ชัดเจนลงไป ไม่ว่าจะเป็นการที่ได้ร่วมงานกับผู้บริหารโดยตรง การเติบโตในสายงานได้อย่างรวดเร็ว เวลาเข้างานที่ยืดหยุ่น

เขียนเหมือนการขายสินค้า การที่คุณต้องแข่งหาคนกับบริษัทแน่นอนว่ามันไม่ง่าย แต่เราสามารถทำให้ข้อความเราน่าสนใจและดึงดูดกว่าบริษัทใหญ่ๆได้ ลองทำให้เหมือนการขายสินค้าที่คุณต้องเสียเงินซื้อดูสิ เมื่อเขียนจบแล้วลองอ่านดูอีกครั้งว่าหากเป็นคุณต้องสมัครงาน การเขียนเช่นนี้จะชักชวนให้คุณสมัครหรือไม่ น่าสนใจเพียงพอรึเปล่า?

สรุปส่งท้าย

นอกจากสิ่งที่เรากล่าวมาแล้วแน่นอนว่าอย่าลืมมองหาช่องทางหลักที่จะโพสให้ตรงกับความต้องการเรา เพราะปัจจุบันนั้นมีเว็บไซต์หางานมากมายและกลุ่มคนที่อยู่ในนั้นก็มักจะมีการแบ่งคร่าวๆอยู่เช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็น Jobsdb, Jobthai หรือเว็บไซต์อื่นๆ ลองดูตำแหน่งที่คุณจะรับและพิจารณาอีกทีว่าตำแหน่งนี้ควรไปโพสในเว็บไหน ที่จะทำให้เราได้คนที่ตรงความต้องการมากที่สุดภายใต้งบประมาณที่จำกัด และเมื่อได้คนเรียบร้อยแล้วก็อย่าลืมวางรากฐานใช้ซอฟต์แวร์ในการจัดการเรื่องเวลางานกันด้วยนะครับ empeo ช่วยคุณได้อย่างแน่นอน

ติดตามเกร็ดความรู้ดีๆ เกี่ยวกับ HR และการพัฒนาองค์กรได้ที่
Blog   www.myempeo.com/blog
Facebook:    www.facebook.com/myempeo
Youtube:   www.youtube.com/empeo

Tags

recruiting, จ้างงาน


You may also like

>